Home / สาระเป็นความรู้ / 6 แนวทาง เลี้ยงลูกอย่างไรให้โตมาไม่ก้าวร้าว

6 แนวทาง เลี้ยงลูกอย่างไรให้โตมาไม่ก้าวร้าว

ใครมีลูก มีหลาน ฟังทางนี่เลยคะ…. ปัจจุบันเด็กที่มีพฤติกรรมความ ก้าวร้าว คือ ปัญหาที่ผู้เป็นพ่อเป็นแม่ ไม่ควรมองข้าม เลยละคะ เชื่อว่าหลายๆครอบครัวคงไม่อยากให้ลูก หลานตัวเองเป็น เด็กซน ก้าวร้าวใช่ไหมละคะ วันนี้ขอเสนอ ” 6 แนวทาง เลี้ยงลูกอย่างไร ให้โตมาไม่ก้าวร้าว ” ที่จะช่วยเป็นทางออก เพื่อไม่ให้เด็กๆ มีพฤติกรรมดังกล่าว … ตามไปดูกันเลยคะ ว่าควรปฏิบัติอย่างไรบ้าง

1. หยุด! สร้างความสนุกกับลูกด้วยความตื่นเต้น ทารกและเด็กเล็กถือว่ายังบอบบาง การเล่นกับเด็กด้วยการโยนลูกขึ้นลง แกว่งไปมา อาจสร้างความหวาดกลัวให้เด็ก และทำให้สมองที่บอบบางของเด็กได้รับแรงสั่นสะเทือน จนอาจเกิดผลกระทบหรือมีอาการบาดเจ็บในสมองได้

2. หยุด! ให้ลูกกินอาหารรสหวานมากเกินไป แม้ความหวานจะไม่เป็นโทษต่อร่างกายของเด็กเท่าผู้ใหญ่ แต่ความหวาน โดยเฉพาะขนมก็ไม่สร้างประโยชน์แก่ร่างกาย เพราะจะทำให้ลูกของคุณเป็นคนติดรสหวานไปจนโต ซึ่งทำให้มีการสะสมน้ำตาลตั้งแต่วัยเด็ก เกิดเป็นต้นเหตุของสารพัดโรค

3. หยุด! ใช้อารมณ์และแสดงพฤติกรรมรุนแรงต่อหน้าเด็ก ความจริงแล้วในข้อนี้ ไม่ควรจะเกิดขึ้นกับใครและวัยใดทั้งสิ้น ความรุนแรงทำให้เกิดความบอบช้ำทั้งร่างกายและจิตใจ แต่สำหรับเด็กจะได้รับผลเสียยิ่งกว่านั้น เพราะนอกจากจะบอบช้ำทางร่างกายและจิตใจแล้ว วัยเด็กยังไม่สามารถแยกดีชั่วได้อย่างผู้ใหญ่ เด็กจะจำพฤติกรรมเหล่านี้ไปใช้ต่อ และมองเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดาของสังคม

4. หยุด! ใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีเลี้ยงลูก การใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟน เล่นเกมส์จากแท็บเล็ต หรือปล่อยให้รายการโทรทัศน์เลี้ยงลูกของเรา มีผลการวิจัยว่า เด็กอายุ 0-7 ปี ไม่ควรได้รับแสงรังสีจากหน้าจอ LCD เพราะเป็นอันตรายต่อสายตาและสมอง ซ้ำร้ายยังเกิดผลเสียต่อสมาธิและพฤติกรรมของเด็ก ทำให้สมาธสั้นอีกด้วย

5. หยุด! ควรคาดหวังให้ลูกเป็นเด็กอัจฉริยะ พ่อแม่ทุกคนนอกจากอยากให้ลูกน้อยมีความสุขแล้ว คงอยากให้ลูกเป็นคนเก่งด้วย จึงมักวางแผนพาลูกไปเรียนพิเศษด้านต่าง ๆ ด้วยความคิดที่ว่า หากเด็กดูโตและมีความสามารถมากกว่าวัย คือเด็กฉลาด เช่นให้ลูกเรียนพิเศษวิชาการตั้งแต่เล็ก ท่อง a b c ได้ก่อนใคร ๆ พาไปประกวด ให้พบเจอผู้คนมาก ๆ จะได้กล้าแสดงออก ฯลฯ ความจริงแล้ว พ่อแม่มือใหม่ควรเรียนรู้ว่ากระบวนการเติบโตของเด็กเป็นอย่างไร เพราะการพาลูกทำอะไรที่ยังไม่เหมาะสมกับวัยของเขา จะทำให้เขาสูญเสียช่วงวัยเด็กที่มีค่าไปอย่างน่าเสียดาย ปล่อยให้ลูกได้เติบโตอย่างเป็นธรรมชาติ จะทำให้ลูกของเราพัฒนาทั้ง IQ และ EQ ได้ดีกว่าในระยะยาว

6. หยุด! ฝากคนนั้นเลี้ยงลูกที คนนี้เลี้ยงลูกที เข้าใจว่ายุคสมัยนี้ ทั้งพ่อและแม่ต้องช่วยกันทำมาหากิน ทำให้ไม่มีเวลาเลี้ยงดูลูก จำเป็นต้องฝากคนอื่นดูแล การทำอย่างนี้แม้พ่อแม่จะมีเวลาไปทำงาน แต่ผลเสียที่จะเกิดตามมามีมากมายนัก*** วัย 0 – 5 ขวบ เป็นช่วงอายุที่เด็กเปิดรับและฝังจำสิ่งแวดล้อมทุกอย่าง ผู้เป็นพ่อแม่จะไม่มีทางรู้เลยว่า ลูกน้อยไปเจอสิ่งใดมา รับสิ่งใดเข้าไป ไม่ใช่เพียงแค่ไม่รู้ ที่แย่กว่านั้นคือยังควบคุมไม่ได้ หากเด็กมีปัญหา พ่อแม่จะหมดสิทธิ์ช่วยลูกแก้ปัญหาทันที เพราะเด็กจะไม่แสดงออกด้วยการพูดอธิบาย แต่จะแสดงออกด้วยพฤติกรรมที่พ่อแม่ ไม่มีทางเดาได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกน้อย

Facebook Comments Box

Check Also

กินน้ำตาลเป็น ชีวิตหวานชื่น

น้ำตาลจะไม่เป็น …